พระองค์ทรงเป็นขึ้นแล้ว!

ขั้นบันไดหลุมฝังศพ

ความรักของพระเจ้าเอาชนะทุกสิ่ง—แม้กระทั่งความตาย

มาร่วมกันชื่นชมยินดีในชัยชนะเหนือความตายของพระเยซูและชีวิตนิรันดร์ที่เรามีในพระองค์กันเถอะ

เฉลิมฉลองวันอาทิตย์แห่งการฟื้นคืนพระชนม์ด้วยการบันทึกและแบ่งปันรูปภาพข้อพระคัมภีร์อีสเตอร์รูปพิเศษนี้

พระองค์ทรงเป็นขึ้นมาแล้ว - มัทธิว 28:6 - รูปภาพข้อพระคัมภีร์

แบ่งปันรูปภาพ

บทอธิษฐานสำหรับวันศุกร์ประเสริฐ

กางเขน

ทำไมวันศุกร์ประเสริฐจึง “ประเสริฐ”?

…พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” และก้มพระเศียรลงสิ้นพระชนม์

ยอห์น 19:30

เหล่าสาวกมองดูพระเยซูร้องว่า “สำเร็จแล้ว” แต่สิ่งที่เสร็จสิ้นแล้วไม่ใช่ชีวิตของพระเยซูที่จบสิ้น—แต่คือทุกสิ่งที่แยกเราออกจากความรักของพระเจ้า

“พระเจ้าอยู่กับเรา” กลายเป็น “พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา” โดยสละพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อช่วยกู้เรา

พระเยซูทรงทนทุกข์เพื่อให้โลกที่ทุกข์ทรมานของเราสามารถรู้จักพระเจ้าเป็นการส่วนตัว … นั่นคือสิ่งที่ทำให้วันศุกร์ประเสริฐ “ประเสริฐ”


บทอธิษฐานสำหรับวันศุกร์ประเสริฐ

พระเยซู

ลูกรู้สึกเศร้าโศกที่ความทุกข์ทรมานที่พระองค์ทรงรับไว้บนไม้กางเขนนั้นจำเป็นต่อการกอบกู้มนุษยชาติ พระองค์ไม่ต้องการให้เราตกเป็นทาสของความกลัว ความวิตกกังวล หรือความบาป—ดังนั้น พระองค์จึงเสียสละตัวเองเพื่อความรักจะได้รับชัยชนะ

ความรักคือสิ่งที่แขวนบนไม้กางเขน และการยอมสละทุกสิ่งเพื่อช่วยกู้เรา “สำเร็จแล้ว” เป็นเสียงร้องแห่งชัยชนะเพราะพระองค์เอาชนะทุกสิ่งที่กักขังเราไว้

เนื่องจากการเสียสละของพระองค์ ลูกสามารถสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดกับพระองค์ตลอดไป ขอบคุณพระเจ้า! โปรดแสดงให้ลูกรู้วิธีแบ่งปันความรักของพระองค์วันนี้และทุกวัน

โปรดใช้ลูกประกาศเรื่องนี้ไปยังโลกใบนี้ที่พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อไถ่

อาเมน

บันทึกการอธิษฐาน

การปลดปล่อยในสิ่งที่ไม่คาดคิด

กราฟิกกระจกสี

ในวันอีสเตอร์ เราระลึกถึงพระวรกายที่แตกสลายของพระเยซูที่ทำให้การแตกสลายของเราสิ้นสุดลง

แต่ก่อนที่เราจะสรรเสริญการฟื้นคืนพระชนม์ สิ่งสำคัญคือต้องมองย้อนกลับไปที่เหตุการณ์ก่อนการเสียสละสูงสุดของพระเยซู

หนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดก่อนการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคือพระกระยาหารมื้อสุดท้าย

ช่วงเวลาของกระยาหารมื้อสุดท้ายนั้นพิเศษเพราะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปัสกา

นั่นอาจดูเหมือนเป็นรายละเอียดเล็กน้อย แต่พระเยซูทรงใช้เพื่อเชื่อมโยงการสิ้นพระชนม์—และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์—กับการอพยพของชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์

เหตุใดเทศกาลปัสกาจึงมีความสำคัญ

เทศกาลปัสกาเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ชาวยิวถือปฏิบัติมาหลายร้อยปีก่อนพระกระยาหารมื้อสุดท้าย

หลังจากการกดขี่หลายสิบปีในอียิปต์ พระเจ้าจะทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้พ้นจากการเป็นทาสและนำพวกเขาไปยังดินแดนที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับพวกเขา

แต่ก่อนอื่น พระองค์ทรงต้องแต่งตั้งผู้นำขึ้นเพื่อช่วยระดมชาวอิสราเอล—โมเสส

เมื่อได้รับคำสั่งจากพระเจ้า โมเสสทูลขออิสรภาพของชาวอิสราเอลจากฟาโรห์ แต่คำตอบทุกครั้งคือไม่

พระเจ้าจึงทรงส่งภัยพิบัติหลายครั้งเพื่อทรมานชาวอียิปต์

แต่พระทัยของฟาโรห์ยังคงแข็งกระด้าง

ในที่สุด การหลบหนี

ทางเลือกสุดท้าย พระเจ้าส่งโรคระบาดครั้งสุดท้าย: ทูตสวรรค์แห่งความตายมาฆ่าลูกชายหัวปีของทุกครอบครัวในอียิปต์

เพราะการกดขี่ที่ชั่วร้ายและความโหดร้ายของฟาโรห์—อีกทั้งความไม่เต็มใจที่จะกลับใจจากบาปของเขา—พระเจ้าจึงทรงคืนความยุติธรรม

แต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมบางสิ่งที่ฟาโรห์ไม่ให้ นั่นคือทางออก

ก่อนเกิดโรคระบาดครั้งสุดท้าย ชาวอิสราเอลได้รับคำสั่งให้ทาสีประตูบ้านด้วยเลือดของลูกแกะที่บูชายัญ ด้วยวิธีนี้เมื่อทูตสวรรค์แห่งความตายมาถึงบ้านของพวกเขาจะ ผ่านไปและลูกชายหัวปีของพวกเขาจะรอด

อาจดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์แปลก ๆ แต่ด้วยการตายของลูกแกะ พระเจ้านำความชั่วร้ายมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

หลังจากโรคระบาดครั้งสุดท้าย—และการตายของบุตรชายหัวปีของเขา—ในที่สุดฟาโรห์ก็ให้อิสรภาพแก่ชาวอิสราเอล

เมื่อพวกเขาตั้งรกรากในดินแดนแห่งพันธสัญญา พวกเขาฉลองเทศกาลปัสกาทุกปีด้วยงานเลี้ยงซึ่งประกอบด้วยขนมปัง น้ำองุ่น และลูกแกะบูชายัญ

ลูกแกะซึ่งปราศจากตำหนิ

หนึ่งพันปีต่อมา พระเยซูและเหล่าสาวกมารวมตัวกันที่โต๊ะอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองในลักษณะเดียวกัน

พระเยซูทรงหยิบขนมปัง ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วหักส่งให้เหล่าสาวกและตรัสว่า “จงรับไปรับประทานเถิด นี่เป็นกายของเรา”

แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย ทรงขอบพระคุณพระเจ้า แล้วยื่นให้กับพวกเขาและตรัสว่า “ท่านทุกคนจงรับไปดื่มเถิด นี่คือโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งหลั่งรินเพื่ออภัยโทษบาปแก่คนเป็นอันมาก”

มัทธิว 26:26-28

ด้วยถ้อยคำเหล่านี้ พระเยซูทรงเชื่อมโยงเทศกาลปัสกากับแผนการของพระเจ้าเพื่อไถ่โลก

องค์ประกอบสุดท้ายของอาหารปัสกาคือลูกแกะ แต่เท่าที่เราสามารถบอกได้ ไม่มีลูกแกะบนโต๊ะที่กระยาหารมื้อสุดท้าย

นั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นั่นเป็นสัญลักษณ์

พระเจ้าทรงช่วยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาสของฟาโรห์ผ่านทางลูกแกะ

โดยทางพระเยซู พระเจ้าทรงช่วยโลกจากการเป็นทาสแห่งความบาปและความตาย

การเรียกให้ลงมือทำ

ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังพระกระยาหารมื้อสุดท้าย พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

การเสียสละของพระองค์คือการรับบาปทั้งหมดของมนุษย์ พระองค์ทรงยอมให้พระบิดาทอดทิ้งพระองค์เองเพื่อที่เราจะไม่ต้องแยกขาดจากพระเจ้า

พระเยซูไม่เพียงแค่ต้องการให้เราเข้าใจสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อเรา พระองค์ต้องการให้เรามีส่วนร่วมโดยการมีความสัมพันธ์กับพระองค์

ในการทำเช่นนั้น เราจะได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เมื่อเราเข้าใกล้วันศุกร์ประเสริฐ ขอให้ระลึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานของพระเจ้า—ที่ดำเนินมาหลายพันปี—เพื่อไถ่เราทุกคน

Facebookแบ่งปันบนเฟซบุ๊ค

Twitterแบ่งปันบนทวีตเตอร์

อีเมลแบ่งปันทางอีเมล

ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋

รับพระคัมภีร์ฟรี

สำหรับใช้ในมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ของคุณ


ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋

มันยากมากที่จะจดจ่อที่พระเจ้าและพระคำของพระองค์ นั่นคือเหตุผลที่แอพ YouVersion เวอร์ชั่นฟรีเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราได้แสวงหาพระทัยพระเจ้าในทุกๆ วัน:  ฟังพระคัมภีร์เสียง สร้างหัวข้ออธิษฐาน ศึกษาพระคัมภีร์กับเพื่อนๆ สำรวจพระคัมภีร์กว่า 2000 เวอร์ชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย ขณะนี้บนอุปกรณ์กว่า 400 ล้านเครื่องทั่วโลก

ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋

2000+ พระคัมภีร์ฉบับแปล:

ฉบับมาตรฐาน
พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971
พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย

พระคัมภีร์ฉบับเสียง:

พระคัมภีร์ฉบับเสียง: ฉบับมาตรฐาน
พระคัมภีร์ฉบับเสียง: พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
พระคัมภีร์ฉบับเสียง: พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV

ดาวน์โหลดแอพพระคัมภีร์ฟรีเดี๋

ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี

ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี

4  
ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง

5  
ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด

6  
ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง

7  
ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ

8  
ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ แม้การเผยพระวจนะก็จะเสื่อมสลายไป แม้การพูดภาษาแปลกๆ ก็จะเลิกพูดกัน แม้วิชาความรู้ก็จะเสื่อมสลายไป

9  
เพราะว่าเรารู้เพียงบางส่วน และก็เผยพระวจนะเพียงบางส่วน

10  
แต่เมื่อความสมบูรณ์มาถึงแล้ว ที่เป็นเพียงบางส่วนนั้นก็จะสูญไป

11  
เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก หาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการของเด็ก

12  
เพราะว่าเวลานี้เราเห็นสลัวๆ เหมือนดูในกระจก แต่ในเวลานั้นจะเห็นแบบหน้าต่อหน้า เวลานี้ข้าพเจ้ารู้เพียงบางส่วน แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนพระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า

13  
และบัดนี้ ทั้งสามสิ่งนี้ยังดำรงอยู่ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก แต่ความรักนั้นใหญ่ที่สุดในสามสิ่งนี้

1 Corinthians 13 in Thai

1 Corinthians 13 in English